เครื่องกั้นจิตปิดกั้นใจ
นิวรณ์ ที่กล่างถึงนี้มีอยู่ ๕ อย่างด้วยกัน คือ
๑. กามฉันทะ (ความรักความพอใจในกาม)
๒. พยาบาท (ความปองร้าย ความอาฆาต)
๓. ถีนมิทธะ (ความท้อแท้ และความง่วงซึม)
๔. อุทธัจจกุกกุจจะ (ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ)
๕. วิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย)
นิวรณ์ทั้ง ๕ ชนิดนี้เป็นตัวกิเลสที่ทำลายความเจริญก้าวหน้า และขัดขวางการปฏิบัติธรรม ซึ่งพระพุทธองค์ทรงอุปมาเปรียบเทียบไว้ดังนี้
ดูก่อนพราหมณ์ ภาชนะที่ใส่น้ำร้อนที่เดือดพล่านมีไอพุ่งขึ้น คนตาดี เมื่อมองเงาหน้าของตนในน้ำนั้น ย่อมมองไม่เห็นตามความเป็นจริง ฉันใด ผู้มีจิตประกอบด้วยพยาบาท (คิดปองร้ายเขา) ย่อมไม่รู้ไม่เห็นอุบายอันเป็นเครื่องสลัดออกซึ่งพยาบาทที่เกิดขึ้นแล้วตามความเป็นจริง ฉันนั้น
ดูก่อนพราหมณ์ ภาชนะที่ใส่น้ำซึ่งมีสาหร่ายและจอกแหนปกคลุมอยู่ คนตาดี เมื่อมองดูเงาหน้าของตนในน้ำนั้น ย่อมมองไม่เห็นตามความเป็นจริง ฉันใด ผู้มีจิตประกอบด้วย ถีนมิทธะ (ความหดหู่ซึมเซา) ย่อมไม่รู้ไม่เห็นอุบายเครื่องสลัดออกซึ่งถีนมิทธะที่เกิดขึ้นแล้วตามความเป็นจริง ฉันนั้น
ดูก่อนพราหมณ์ ภาชนะใส่น้ำที่ถูกลมพัดกระเพื่อมคนตาดีเมื่อมองดูเงาหน้าของตนในน้ำนั้น ย่อมมองไม่เห็นตามความเป็นจริง ฉันใด ผู้มีจิตประกอบด้วย อุทธัจจกุกกุจจะ (ความฟุ้งซ่านรำคาญใจ) ย่อมไม่รู้ไม่เห็นอุบายเครื่องสลัดออก ซึ่งอุทธัจจกุกกุจจะที่เกิดขึ้นแล้วตามความเป็นจริง ฉันนั้น
ดูก่อนพราหมณ์ ภาชนะใส่น้ำซึ่งขุ่นมัวเป็นตม คนตาดีเมื่อมองดูเงาหน้าของตนในน้ำนั้น ย่อมมองไม่เห็นตามความเป็นจริง ฉันใด ผู้มีจิตประกอบด้วยวิจิกิจฉา (ความลังเลสงสัย) ย่อมไม่รู้ไม่เห็นอุบายเครื่องสลัดออกซึ่งวิกิจฉาที่เกิดขึ้นแล้วตามความ เป็นจริง ฉันนั้น”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น